เค้าว่ากันว่าวัย 2 ขวบนี่เป็นวัยที่น่ารักที่สุด อยากจะบอกว่าผมเองก็เห็นด้วย ตอนนี้ก็ 2 ขวบ 7 เดือนเข้าไปแล้ว ไม่ค่อยได้มีเวลามีอัพเดทอะไรมากเท่าไหร่ในบล็อคนี้ ส่วนใหญ่ก็จะอยู่บน Social Network เอาจริงผมก็ลังเลว่าจะอัพดีมั้ยแต่ก็นะ บันทึกเก็บไว้เป็นความทรงจำกันไป อย่างน้อย Social ล่มสลายแต่เว็บไซต์ของผมก็ยังคงอยู่อย่างแน่นอน
วัยของการมีตัวตน อยากทำเองทุกอย่าง
การมีตัวตนของเด็กวัยนี้คือการอยากทำทุกอย่างด้วยตัวเอง “น้องอยากทำเอง” คำนี้คือพูดกับทุกอย่างจนแบบหึ้มมมม มันยังไม่ถึงเวลาน่ะเจ้าตัวเล็กจะรีบไปไหน คืออยากทำเองทั้งที่ยังทำไม่ได้และบางเวลาก็ต้องรีบ แต่ก็ต้องรอให้เค้าทำเอง หัวจะปวดจริงๆ
ลูกหวงของ หวงแม๊กระทั่งของคนอื่น
ถ้าหวงของตัวเองเนี่ยไม่แปลกเพราะได้สิทธิ์เป็นเจ้าของอยู่แล้ว แต่นี่มันของเล่นของคนอื่นนะลูกกกกก จะไปหวงเจ้าของเค้าได้ยังไง !! กว่าจะจับแยกได้ก็เหนื่อยพอควร คืออีสเตอร์มีเพื่อนบ้านที่อยู่ในวัยใกล้เคียงกัน ก็เล่นด้วยกันมาตลอด พี่ก็ยอมน้องตลอด แต่ตอนนี้พี่โตขึ้นก็มีตัวตนแล้วรู้จักสิทธิ์ของตัวเองแล้วเวลาน้องเข้ามาแย่งก็เริ่มมีการต่อสู้กันเกิดขึ้น อีฟกะเราก็ต้องคอยมาอธิบายและจับแยกอยู่ตลอดเวลา … เหนื่อยอยู่เหมือนกันรอวันเค้าเข้าใจว่าสิทธิมันคืออะไร
พูดเก่งขึ้นเยอะแบบเยอะมากๆ
คือศัพท์ในหัวก็เยอะมาก เนื่องจากอีฟเป็นคนที่พูดเก่ง อีสเตอร์ก็เหมือนได้ฝึกกับแม่ไปในตัว ผสมคำที่ใช้ในนิทานและในชีวิตประจำวันได้อย่างตรงความหมาย ชอบเอาคำที่เหมือนกันมาเชื่อมกัน อันนี้ตรงบ้างไม่ตรงบ้างแต่ก็มีเซอร์ไพรซ์ได้อยู่ตลอดเวลาเหมือนกัน
ยืนยันว่านิทานส่งผลต่อสมองและความคิดของลูกน้อยได้จริงๆ
เราอ่านนิทานให้ลูกฟังตั้งแต่ยังไม่เกิดจนตอนนี้ 2 ขวบ 7 เดือนละ สิ่งที่เราสังเกตได้ในตอนนี้คืออยากรู้เล่มไหน หรืออยากฟังเล่มไหนก็จะหยิบมาแล้วก็บอกว่า พ่อ อ่านให้ฟังหน่อย เราได้ยินคำนี้คือแบบไม่เคยรู้สึกรำคาญหรือตะขิดตะขวงใจในการอ่านให้ฟังเลย เรากลับรู้สึกดีใจซะอีกที่ลูกอยากฟังนิทานจากเรา
ยอมแปรงฟังได้เพราะนิทาน
กว่าจะยอมแปรงฟันได้คือต้องฉุด กระชาก ลาก ดึง กันอยู่พักนึง มันยากซะเหลือเกินในการแปรงฟันแต่ละที ทำไมเด็กๆมันง่ายกว่านี้เยอะเลยล่ะลูก ยิ่งโตยิ่งลีลา อีฟเลยไปศึกษาหาข้อมูลมาว่าจะทำยังไงดี ได้คำแนะนำมาว่า ใช้นิทานสิ ตอนนั้นมีนิทานเล่มเก่าของพี่อ้อชื่อเรื่่องว่า “หนูนิดไม่ยอมแปรงฟัน” ก็เคยอ่านแล้วน่ะนะ เราก็ใช้ความกลัว Monster ให้เป็นประโยชน์ บอกลูกว่า Monster แพคกระเป๋าเตรียมที่จะมาอยู่ในปากของคนไม่ยอมแปรงฟันละ อีกสักพักก็จะออกจากปากน้องละ … เท่านั้นแหละ ยอมเลยจ้าาา
ก็มาแปลงที่เตียงนะ แต่หมอบอกว่าให้ฝึกนอนแปรง เวลาหาหมอฟันจะได้คุ้นชินกับการโดนตรวจฟัน อะเอาใหม่เปลี่ยนสถานที่ฉุดกระชากจากห้องน้ำมาอยู่บนเตียงแล้วบังคับให้นอนแปลง ก็ทำอยู่ 3-4 วัน อีสเตอร์บอกว่า “น้องยอมละ น้องยอมนอนแปรงละ พ่อไม่ต้องล็อคละ” 555 ขำเลยอยู่ๆก็ยอมซะงั้น อีฟเลยซื้อหนังสือเกี่ยวกับการแปรงฟันอีก 1 เล่มไว้อ่านระหว่างนอนรอแม่แปรงฟัน ชื่อว่า “รถไฟแปรงสีฟัน”
นอนหลับได้เอง ไม่ต้องจุ๊บนม และนอนนานขึ้น
ตอนนี้อีสเตอร์นอนเองได้ละปกติต้องหลับไปพร้อมนม แต่ตอนนี้คือกินเสร็จ บอกลา แล้วก็พยายามหลับเอง มีขอจับนมบ้างแต่จะไม่กินแล้วหลับไป
พอหลับก็ยิงยาวยันเช้า ตื่นมาแงๆกลางดึกน้อยมากถ้าแม่อยู่น่ะนะ แต่ถ้าแม่ไม่อยู่รู้สึกตัวทีหาแม่ไม่เจอก็ร้องเลย แปปเดียวก็หลับต่อได้ไม่มีปัญหาอะไร
เล่นสกู๊ตเตอร์แบบยืนและเริ่มเล่นขาไถได้แล้ว
อีสเตอร์ขอให้เปลี่ยนสกู๊ตเตอร์แบบนั่งมาเป็นแบบยืนแล้วขอลอง เออไปได้แฮะ อยู่ๆก็ปลดล็อคสกิลนี้เฉยเลย แต่ไถได้แปปๆก็จูง น่าจะเบื่อแหละมันไปช้า ตัวเองก็ยังไม่ได้ชำนาญเหมือนแบบนั่งที่จะซิ่งได้ไวๆ
ส่วนขาไถมีของ strider ที่พี่อัลลีนให้มา ก็พอทำความเข้าใจและเริ่มจะยอมนั่งแล้วไถไปข้างหน้าละแต่ก็เหมือนเดิมไม่กี่ก้าวก็ขอลงมาจูงแทน แล้วก็วิ่งไป Playground เอาน่ะ ถือว่าได้เริ่มละก็ค่อยๆพัฒนาไปเนาะลูกเนาะ
ก็เป็นพัฒนาการตามวัย 2 ขวบ 7 เดือนแบบสั้นๆตามเด็กปกติไม่ได้ช้าอะไร อยู่ในท้องน้อยกว่าคนอื่นก็ออกมาโตเอาข้างนอกละกันนะ 555 จริงๆเราแอบเทสพัฒนาการลูกละว่าตอนนี้ทำได้ถึงไหน มันมีสมุดสีชมพูอยู่ว่าอายุเท่านี้ทำอะไรได้บ้าง ก็เทสอีสเตอร์ไปได้ข้อสรุปว่าทำได้เท่าเด็ก 4 ขวบประมาณ 70% นะ ไม่ได้อวยลูกนะเออแต่ตัวเล็กเค้าทำได้จริงๆ อิอิ
