อุตส่าห์รอดมาตั้งหลายซีซั่น มาเป็นโควิดในปี 2024 เอาซะได้ เนื่องจากปลายปีเราและครอบครัวได้ไปหลายที่อยู่พอสมควร และพฤติกรรมเจ้าอีสเตอร์ก็ไม่ธรรมดาจับนู้นจับนี่แล้วก็เอาเข้าปาก เป็นไงล่ะไม่สบายสมใจอยาก นอนซมกันไป
อาการแรกเริ่ม
ไข้ครับ อยู่ๆตอนตี 2 ก็ไข้ 38.6 สตาร์ทเครื่องแรงจริงๆ ร้อนจี๋กันไปเลย เราก็จับอาบน้ำ ให้ยาไข้สูง สลับกับไข้ต่ำไป เช้ามาไข้ก็ลดนะ แต่มีน้ำมูกและไอเพิ่มนิดหน่อย แต่กะละว่าต้องมาหาหมออยู่ละเพราะคิดว่าไอเยอะเกินไปสำหรับ 1 วัน ไม่น่าใช่แค่ระคายคอละจิบน้ำได้
พามาที่ โรงพยาบาล กรุงเทพ-เชียงใหม่
หลังปีใหม่คนอย่างน้อย รอแค่ 2 คิวอีสเตอร์ก็ได้ตรวจ หมอเลยให้แอดมิดเพื่อตรวจเลือดหาสาเหตุและดูอาการ
กว่าจะได้ห้องก็นานพอสมควร ถึงจะบอกว่าโล่งก็เถอะ เราได้คิวที่ 8 มา 11 โมง กว่าจะได้ห้องก็เกือบ 4 โมง นานเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ระหว่างนั้นก็หาอะไรกิน ป้าแอ้ ป้าจ๊วด ยายอู๋มาทานข้าวด้วยที่ Black Canyon จากนั้นก็มารอแปปๆป้าแอ้ก็ขึ้นเครื่อง ส่วนอีสเตอร์ก็โดน swab ไปหนึ่งทีเพื่อคัดกรองและหาว่าอาจจะเป็น rsv โควิด หรือไข้หวัดใหญ่ เอ้อละก็เจาะเต่าไปด้วยหลังจากที่รู้ละว่าจะได้ห้อง
เลขที่ออกห้อง A909 เป็นฝั่งห้องที่ไม่เคยมาพักของที่นี่เลย เปลี่ยนวิวจากดอยสุเทพกลายเป็นวิวถนน ลำปาง-เชียงใหม่ ก็สวยไปอีกแบบ แต่ก็อยู่ได้ไม่นานครับ โทรศัพท์ก็ดังและพยาบาลก็เดินมาบอกว่า น้องเป็นโควิดนะคะ ต้องย้ายไปห้องกักตัว แต่ราคาจากห้องละ 4000 จะกลายเป็นห้องละ 6000 นะคะคุณพ่อ … ตอนนั้นก็อะไรก็มาเถอะครับ … แล้วเราก็รอไปอีกประมาณชั่วโมงนิดๆ
ห้อง Negative Pressure หรือห้องแรงดันลบ ของโรงพยาบาล กรุงเทพ-เชียงใหม่
เอาจริงเราก็รู้จักแต่ Positive Pressure ของบ้านที่เราอยู่มันคือการเอาอากาศเข้ามาในบ้านทางเครื่องกรองแล้วก็ดันฝุ่นไม่ให้เข้าบ้านอะไรแบบนั้น แต่พอมาเป็น Negative Pressure แล้วเนี่ยมันสลับกันคือเรารู้สึกว่าลมมันดูดจากข้างนอกเข้ามาในห้องมากกว่า หมายถึงตรงประตูน่ะนะ แต่จริงๆก็มาทางช่องแอร์ที่กรองก่อนเข้ามาแล้ว จากนั้นก็ออกทางช่องระบายอากาศเพื่อกรองก่อนออกไปข้างนอก
คือจะไม่มีอากาศจากห้องเราหลุดเข้าวอร์ดชั้น 9 เลยล่ะเพราะลมจากทางเดินก็เข้าห้องเราเวลาเปิดประตู เออเป็นระบบที่ดีจริงๆเอาไว้กันโรคเข้าสู่ชั้นหลักด้านในอะไรแบบนั้น
โดน x-ray ปอดด้วย
เออเครื่อง x-ray ที่นี่เค้าเอาขึ้นมาตรวจที่ห้องเลย ให้เด็กนั่งเก้าอี้ แม่จับมือ ใส่ชุดอวกาศเพื่อป้องกันรังสี ส่วนคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องนั้นหลบอยู่นอกห้องได้เลยจ้าาา
อีสเตอร์อาการดีขึ้น แต่แม่อีฟทรุด
ก็เป็นเวลาเกือบ 2 วันครับ(รวมที่บ้าน) ที่อีสเตอร์ไข้ขึ้นๆลงๆ ก็สลับยาไข้สูง ไข้ต่ำ และอาบน้ำ วนไปเรื่อยๆ จนไม่มีไข้ต่อเนื่องกัน 12 ชั่วโมงก็ถือว่าไข้เนี่ยหายละ ส่วนอาการอื่นคือไม่มีสามารถวิ่งเล่นได้ปกติ เพียงแต่โดนเจาะเต่าเข้าไป ความซ่าก็ลดลง 30% เท่านั้นเอง ทำอะไรนางไม่ได้จริงๆ
คนที่ไข้ 38 คนต่อไปก็คือแม่อีฟครับ ตัวร้อนจี๋เลย เนื่องจากเป็นผู้ใหญ่แล้วก็อาบน้ำ ขัดตัว กินยา วนไปเรื่อยๆ ดีนะที่ไม่มีไข้สูงกินแต่ Bakamal ของโรงพยาบาล บอกได้เลยว่าเป็น ยาพารา ดีที่สุด เท่าที่เคยกินมา คือได้ผลไว หายไว ตอนปวดหัวมากินก็ดีขึ้น แต่ก็นั่นล่ะมันทำลายตับ ไตของเรา ใครที่กินเป็นประจำพึงระวังไว้ด้วยนะครับ ยาพวกนี้กินติดต่อกันนานๆมันจะไม่ดีต่อร่างกาย
ที่เขียนอยู่ตอนนี้ก็นั่งอยู่กับคืนสุดท้ายของ รพ กรุงเทพ-เชียงใหม่ ฟิลแบบข้างถนน ห้องแบบว่าไม่เก็บเสียงเอาซะเลย มอไซ รถบรรทุกคือได้ยินหมด ดังจริงอะไรจริง
